ทำความเข้าใจรวมทั้งรู้เรื่อง “จู๋” อย่างถูกแนวทาง ผมมิได้มีเอาไว้ฉี่สิ่งเดียวขอรับ

หากจำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเอาผมเข้าไปทางก้น ด้วยเหตุว่าก้นไม่มีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติ ก็จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่นแบบเป็นน้ำ หรือที่รู้จักว่า “เค-วาย เจล” ซึ่งจะแตกต่างจากเจลแบบเป็นน้ำมัน หรือปิโตรเคมี อย่างวาสลีน โลชั่น หรือออยล์ ด้วยเหตุว่าหากพวกเราใช้เจลแบบเป็นน้ำหีนักเรียนมัน จะมีผลให้ถุงยางอนามัยหมดสภาพ รวมทั้งบางทีอาจแตกได้ง่ายเมื่อมีการเสียดสี
หากใช้ถุงยางรวมทั้งสารหล่อลื่นผิดจำเป็นต้อง จะมีผลให้ถุงยางอนามัยแตก รั่ว หรือหลุดได้ ก็จะมีผลให้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสมาคม หรือท้องได้ครับ เรื่องแบบงี้ ทำร่วมกัน ก็จำเป็นต้องรับผิดชอบร่วมกันขอรับ หากไม่คุ้มครองป้องกัน เพศชายบางทีก็อาจจะโชคดีกว่า ที่ไม่ต้องท้อง แม้กระนั้นมิได้แสดงว่า ผมจะไม่ติดเชื้อโรค (อันนี้คิดแบบเห็นแก่ตัวนิดหน่อยครับ) ปัจจุบัน ถุงยางแจกฟรีก็มีขอรับ ที่โรงหมอเมือง หรือที่ทำการสาธารณสุขทั่วทั้งประเทศ จะหาซื้อก็ง่าย มีหลายแบบ หลายกลิ่น ให้เลือก ร้านขายของสบายซื้อก็มีขายทุกร้านค้า แม้กระนั้นบางทีก็อาจจะขาดตลาดในสถานที่เรียน ซึ่งผมก็ไม่รู้เรื่องแบบเดียวกันขอรับ เด็กหนุ่มสาวปัจจุบันโตเร็วกว่าแต่ก่อน ด้วยสรีระร่างกาย สภาพแวดล้อม สื่อรอบกาย เด็กจะมีอะไรกับคนไหนกัน เมื่อใด คนไหนกันจะไปห้ามได้ละครับ สิ่งที่คนแก่ทำเป็นรวมทั้งควรจะทำเป็นสอนให้เด็กรู้จักการคุ้มครอง สอนให้เด็กรักตนเอง ดูแลตนเองดีๆจะได้ไม่ติดเชื้อโรค และไม่ท้องในวัยศึกษา ผมว่า ใครๆก็ต้องการใช้ผมไปนานๆซึ่งจะใช้ได้นานๆก็จำเป็นต้องบำรุงผมให้ดีนะขอรับ จำเป็นต้องรักษาความสะอาด ใช้ถุงยางเมื่อมีเซ็กส์ หากเป็นโรค ก็จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้ถูก ไม่สมควรซื้อยามากินเอง เพียงนี้ ก็พอแล้ว กล้วยๆไม่ยากเลยใช่ไหมขอรับ
บำรุงผมดีๆครับ เพื่อผู้ที่คุณรัก รวมทั้งตัวคุณเอง รักนะ…. จุ๊บุ จุ๊บุ
จู๋ขอรับ!
โดย พสุภา คุ้นชินวรโสภาค สวัสดีขอรับ ผมชื่อ “จู๋” ขอรับ คนถูกใจจับคู่ผมกับ “จิ๋ม” เมื่อก่อนที่จะจับผมไปคู่กับคนไหนกัน มารู้จะผมก่อนดีไหมขอรับ เมื่อเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมา จะมี จู๋ หรือ จิ๋ม เป็นอวัยวะที่เจาะจงผู้ชายหรือหญิงในใบเกิดหรือใบแจ้งกำเนิด มี 2 เพศให้เลือกแค่นั้น ซึ่งเป็นเพศภาวะทางร่างกายเป็นมองตามอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกในวันที่ออกมาจากท้องแม่ หากเป็น “จู๋” ก็จะเป็นเด็กผู้ชาย รวมทั้งเมื่อโตขึ้นอายุครบ 15 ปี จะถูกเปลี่ยนวลีนำหน้าชื่อจากเด็กผู้ชายเป็นนาย ไม่ว่าจะสมรส ไม่สมรส หรือหย่า ก็ยังคงใช้คำขึ้นต้นว่า “นาย” อยู่ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงราวกับเด็กน้อยมี “จิ๋ม” ที่มีคำนำหน้าชื่อว่า เด็กผู้หญิง นางสาว หรือนาง รวมทั้งหากว่า เมื่อเด็กคนนั้นโตขึ้น รวมทั้งรู้จักตนเอง เลือกได้ว่าตนเองเป็นคนไหนกัน ที่นอกจากชาย รวมทั้งหญิง แม้กระนั้นด้านกฎหมาย ทางด้านราชการ ก็ยังควรจะเป็นตามสิ่งที่ประจำตัวมาตั้งแต่กำเนิด โน่นเกิดเรื่องผมรวมทั้งจิ๋มกับทางด้านราชการ ก็ให้ทางด้านราชการว่ากันไปขอรับ กลับมาเรื่องของพวกเราดีมากกว่า ผมต้องการจะเสนอแนะคุณให้รู้จักผมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มจากชี้แจงภาพรวมของผมให้รู้เรื่องกันก่อนครับ หากมองจากด้านนอก อวัยวะสืบพันธุ์ชาย มี 2 ส่วนเป็นจู๋ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า องคชาต มีรูปร่างเป็นท่อนยาว แกว่งไปมาได้ เป็นทางออกของน้ำบางสิ่งบางอย่างภายในร่างกายเพศชายครับ ตอนเด็กๆผมใช้ฉี่สิ่งเดียว พอเพียงโตขึ้น ก็จะมีน้ำหล่อลื่น รวมทั้งน้ำกาม ออกมาด้วยขอรับ นอกจากนั้น ผมยังมีอัณฑะ ที่มีรูปร่างราวกับถุงแขวนๆ2 ถุง อยู่ข้างหลังผม เป็นที่สร้าง เก็บสเปิร์ม รวมทั้งผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน อันเป็นฮอร์โมนเพศชาย ที่ทำให้เพศชายมีเสียงห้าว มีหนวด หนวดเครา ขนแข้ง มีกล้ามเป็นผูกๆเห็นได้ชัดกว่าเพศหญิง ยิ่งหากบริหารร่างกาย ก็จะมี six pack ได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเพศหญิงด้วย บริเวณผม มีขนด้วยขอรับ พอเพียงผมโตขึ้นเป็นวัยรุ่น ขนนี้ ก็จะยาว ดก รวมทั้งหยิก มีไว้เพื่อคุ้มครองป้องกันการเสียดสีระหว่างมีเซ็กส์ รวมทั้งเป็นตัวกรองฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปในจิ๋ม ขณะมีเซ็กส์ หากขนยาวมากมาย ก็เล็มๆออกได้ครับ เพราะว่าผมจะมีชื่อเสียงมากยิ่งกว่า อัณฑะ ผมก็จะขอเล่าแม้กระนั้นเรื่องของผมครับ โดยทั่วไป ท่อนหัวของผมก็จะอยู่ในหมวก หรือหนังห่อปลาย พอเพียงโตขึ้น หัวของผมก็ใหญ่ขึ้นด้วย หากหัวของผมใหญ่มากยิ่งกว่าหมวก หัวผมก็ดันหมวกโผล่ออกมาได้โดยธรรมชาติ ราวกับเต่าโผล่หัวออกมาจากกระดอง แม้กระนั้นหากหมวกใหญ่มากยิ่งกว่าหัวของผม ผมก็โผล่หัวออกมาเองมิได้ จำเป็นต้องใช้มือช่วยดึงหมวกให้หัวโผล่ออกมา แม้กระนั้นหากดึงอย่างไร ก็ดึงไม่ออก ก็จำเป็นต้องไปถอดหมวกออกขอรับ ซึ่งโน่นเป็น การ “ขริบ” นั่นเอง โดยที่ศีรษะผมตอนหลุดจากหมวกจะราวกับหมวกของเห็ดขอรับ
ทดลองเปรียบเทียบกับท่อนหัวจริงๆมองครับ ท่อนหัวพวกเรา มีเหงื่อแตก มีน้ำมันจากผม มีรังแค อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเหาด้วย แล้วหากพวกเราสวมหมวกตลอดระยะเวลา สิ่งกลุ่มนี้ ก็หมักหมมอยู่ในหมวก เป็นไปไม่ได้ออกไปไหน อีกทั้งเลอะเทอะ อีกทั้งเหม็น ป่วยหนักหัว หากถอดหมวกออกแล้วได้กลิ่น เกือบจะคลื่นไส้เลยขอรับ หลักเกณฑ์ของอิสลาม ก็เลยกำหนดให้เด็กชาวมุสลิมจำเป็นต้องถอด “หมวก” ออก ด้วยการขริบหนังห่อปลาย โดยขริบตั้งแต่เริ่มฝันเปียก สักครู่ผมจะเล่าถัดไปครับ ว่าฝันอะไร อะไรแฉะ ซึ่งการขริบ ก็เพื่อรักษาความสะอาด ไม่ให้มีคราบไคล หรือที่เรียกว่า “ขี้แฉะ” ไปหลงเหลือ หมักหมม นำมาซึ่งคราบเปื้อน กำเนิดกลิ่น เป็นแหล่งเชื้อโรค รวมทั้งการขริบยังช่วยลดการได้รับเชื้อโรคทางเพศสมาคมได้ด้วย องค์การอนามัยโลก (WHO) เสนอแนะให้เด็กผู้ชายไปถอด “หมวก” ออกกันทุกคนเลยคะขอรับ ผมก็เลยต้องการจะเสนอแนะให้ลูกผู้ชายทุกคนไปถอดหมวกออกกันขอรับ โดยไปขริบหนังห่อปลายพอดีโรงหมอทุกหัวระแหงเลย
“องค์การอนามัยโลก ได้เสนอแนะให้ขริบ ด้วยเหตุว่าจะช่วยยั้งการแพร่ไปของโรคภูมิคุมกันบกพร่อง รวมทั้งช่วยเหลือให้มีการขริบในกรุ๊ปสามัญชนที่มีการเสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่อง รวมทั้งการขริบมีจุดเด่นมากมายก่ายกอง ได้แก่ สามารถลดอัตราการเป็นโรคติดโรคฟุตบาทระบบฉี่ โรคมะเร็งองคชาต รวมทั้งโรคมะเร็งปากมดลูก ที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อ HPV ที่สะสมในหนังห่อปลายอวัยวะสืบพันธุ์ชาย ทั้งยังมีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยรับรองว่าการขริบ ไม่ทำให้ความสามารถทางเพศต่ำลง” (ที่มา http://www.medicalnewstoday.com/releases/129992.php) หากคนไหนกันที่โผล่หัวออกมาจากหมวกได้ และไม่ต้องการถอดหมวกออกอย่างคงทน ก็จำเป็นต้องชำระล้างดีๆขั้นตอนก็ง่ายดายมากขอรับ รูดหมวกให้ท่อนหัวผมออกมา ใช้น้ำราดหัวผม หรือใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำ เบาๆขัด ขัดด้วยสบู่ปกติ ล้างน้ำไม่ให้สะอาดอีกที ขัดให้แห้ง แล้วสวมหมวกกลับดังเดิม กระบวนการทำความสะอาดกล้วยๆแบบงี้ น่าจะทำทุกวี่วันครับ หัวผมจะได้สะอาดไม่มีคราบเปื้อน ไม่มีกลิ่น รวมทั้งเชื้อโรค ครั้งคราว ผมจะรู้สึกเจ็บหัว เป็นด้วยเหตุว่าหมวกหุ้มหัวผมเป็นหนังที่บางมากมายๆเมื่อมีการเสียดสี หรือได้รับการกระทบ อาจจะส่งผลให้หัวผมโนได้ ครั้งคราวก็ราวกับมีเม็ดผื่นขึ้น พอเพียงบีบก็จะมีไขมันขาวๆออกมา ราวกับสิวเลยขอรับ แม้กระนั้นไม่ใช่หรอกขอรับ คือต่อมไขมันประเภทหนึ่ง หากไม่มีอาการแสบ คัน อักเสบ แพร่กระจาย หรือมีลักษณะแตกต่างจากปกติอื่นๆก็ช่างเถอะขอรับ หากมีต้องไปพบหมอนะขอรับ ด้วยเหตุว่าบางทีก็อาจจะไม่ใช่เม็ดไขมัน แม้กระนั้นเป็นตุ่มจากเชื้อรา เริม หรือโลนก็ได้ โดยแพทย์จะรักษาให้หาย ไม่ต้องทนเจ็บ ทนปวด อักเสบเปลี่ยนเป็นโรคอื่นให้เจ็บหัวผมอีกต่อไป รอบๆผิวของผมจะมีสีคล้ำกว่าผิวหนังรอบๆอื่นของร่างกาย แม้ว่าจะอยู่ในร่มผ้า ไม่โดนแดดก็ตาม เป็นด้วยเหตุว่าการเสียดสีของผิวหนังอาจจะทำให้สีของผมคล้ำขึ้นได้ ซึ่งมิได้แตกต่างจากปกติอะไรครับ รวมทั้งมิได้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังด้วย อีกอย่าง เวลาผมแข็ง ตัวผมจะไม่ตรงเป็นไม้บรรทัดครับ ผมไม่ใช่ ท. ทหาร ทรหดอดทน ที่ตะพายปืนยืนข้างหลังตรง ตัวผมจะงอๆราวกับกล้วยหอมที่งอ แม้กระนั้นหากผมตัวงอ แบบหักศอก ตั้งฉาก 90 องศานี่นับว่าเป็นเรื่องเปลี่ยนไปจากปกติแล้วครับ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอะไรแตกต่างจากปกติด้านใน พาผมไปพบแพทย์เลยคะขอรับโน่น สำหรับความสูง รวมทั้งรอบกายผม ก็ไม่อาจจะเปรียบเทียบกับคนอื่นๆได้ ของคนไหนกันก็ของคนนั้น มนุษย์เรามีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลขอรับ ไม่ต้องไปสนใจคนไหนกัน คนไหนกันจะใหญ่ จะเล็ก จะอ้วน จะผอมบาง ก็ตามเขา พวกเราพึงพอใจในสิ่งที่พวกเรามีดีกว่าขอรับ อย่างไรก็ตาม ผมจะโตขึ้น ตามอายุที่มากขึ้น จนกระทั่งวัยรุ่นช่วงท้าย อายุโดยประมาณ 22 – 23 ปี ผมก็จะหยุดโต และไม่ว่าจะมียาที่โปรโมทว่าทำให้ผมยาวขึ้น หรือใหญ่ขึ้นได้ อย่าไปเชื่อครับ ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่จริงเลย ด้วยเหตุว่าไม่มีรายงานด้านการแพทย์ใดๆก็ตามในโลกนี้ รับรองว่า ยารับประทาน ฉีด ทา นวด หรือฝังมุก จะมีผลให้ผมใหญ่ขึ้นอีกได้ หากเชื่อรวมทั้งเอาอย่าง จะเป็นการนำสิ่งเจือปนไปสู่ร่างกาย ไม่กำเนิดอะไรขึ้นดีแล้วไป แม้กระนั้นถ้าหากการอักเสบ เน่า บางทีก็อาจจะจำเป็นต้องตัดผมทิ้งได้ เสียดายห่วยเลยขอรับ เมื่อผมเริ่มไปสู่วัยรุ่น น้ำที่ออกมาจากผม เว้นเสียแต่ฉี่แล้ว ก็มีน้ำหล่อลื่น รวมทั้งน้ำกาม เพิ่มมาด้วย แม้กระนั้นออกมาไม่พร้อมครับ น้ำหล่อลื่นจะออกมาตอนมีควาพึงพอใจทางเพศ เพื่อตระเตรียมสำหรับในการสอดใส่ ส่วนน้ำกามจะออกมาตอนถึงจุดสูงสุด แล้วผมก็จะ “ฝันเปียก” ด้วยขอรับ ผมเคยเอ่ยถึงฝันเปียกมาแล้ว ที่ว่า เด็กชาวมุสลิม จะขริบเมื่อเริ่มฝันเปียก ซึ่งฝันเปียกเป็นการหลั่งน้ำกามตอนนอน เป็นสัญญาณบอกว่า ผมเป็นชายหนุ่มแล้ว รวมทั้งหากมีเซ็กส์กับจิ๋มที่มีรอบเดือนแล้ว โดยไม่คุ้มครองป้องกัน ก็จะมีลูกได้ เมื่อมีควาพึงพอใจทางเพศ ตัวผมจะแข็ง หากไม่มีผู้ใดให้ผมสอดใส่ ก็ใช้มือช่วยเหลือตัวเองขอรับ เรียกว่า “ชักว่าว” ซึ่งเป็นคำที่เด็กหนุ่มสาวใช้ค้นหาสูงที่สุดใน www.teenpath.web ชุมชนที่การศึกษาเพศศึกษา เมื่อสิ้นปี 2554 (ข่าวสารจาก MatichonOnlinehttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327216108&grpid=03&catid=03) แม้กระนั้นการช่วยตนเองโดยการทำแรงๆอาจจะส่งผลให้ฟุตบาทฉี่อักเสบ ทำให้เกิดความรู้สึกแสบ ขัด เวลาฉี่ รวมทั้งปวดรอบๆเอวได้
หากผมจะมีอะไรกับจิ๋ม หรือผู้ที่มีจู๋ (มีทางก้นครับ ไม่ใช่เอาจู๋มาพันกัน) ก็คือเรื่องธรรดาขอรับ เซ็กซ์มีได้ รวมทั้งมีกับผู้ใดก็ได้ หมายคือเพศเดียวกัน หรือต่างเพศ ก็ไม่ใช่เรื่องที่แตกต่างจากปกติ และไม่จะต้องมีอายุมากำทีด แม้กระนั้นผมต้องการที่จะให้คุ้มครองป้องกันผมหน่อยครับ รวมทั้งเป็นการคุ้มครองป้องกันคู่ด้วย ซึ่งการคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุดเป็นใช้ถุงยาง ที่คุ้มครองป้องกันได้อีกทั้งโรคติดต่อทางเพศสมาคมรวมทั้งการท้อง แม้กระนั้นจำเป็นต้องใส่ถุงยางให้ถูก ถูกขนาดด้วยครับ ใส่ให้ถูกด้าน ไล่อากาศออก ไม่ใช้ถุงยางอนามัยเสื่อม หมดอายุ หรือใช้ซ้ำ ถุงยางอนามัย 1 อัน ใช้ได้ 1 ครั้งแค่นั้นครับ